ธปท.เปิดข้อมูลต่างชาติซื้อคอนโดฯ เมืองไทย เผยปี 2565 ยอดโอนทะลุ 6 หมื่นล้าน เปิดสถิติ 7 ชาติสูงสุด “ฮ่องกง-สหรัฐ” นำโด่ง ขณะที่จีนแผ่นดินใหญ่รั้งท้าย จับตา “ฮ่องกง-สหรัฐ”นำโด่ง
วันที่ 26 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยข้อมูลเงินโอนจากต่างชาติเพื่อซื้ออาคารชุดไทย แยกตามประเทศหรือสัญชาติเจ้าของบัญชี ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2561-2565) พบว่า ปี 2561 ถือว่าเป็นปีที่มียอดเงินโอนต่างชาติเพื่อซื้อคอนโดมิเนียมมากที่สุด มูลค่า 91,005 ล้านบาท และในปี 2562 ซึ่งเป็นปีก่อนเกิดโควิด-19 ยอดเงินโอนเพื่อซื้อคอนโดฯของต่างชาติก็ปรับลดลงมาอยุ่ที่ 67,596 ล้านบาท
สำหรับในปี 2563 ซึ่งเป็นปีที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 พบว่ายอดเงินโอนเพื่อซื้ออาคารชุดของต่างชาติก็ลดลงมาอยู่ที่ 52,805 ล้านบาท และในปี 2564 ลดลงมาอยูที่ 44,326 ล้านบาท
ขณะที่ปี 2565 ซึ่งสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย เริ่มเปิดประเทศ ยอดเงินโอนเพื่อซื้ออาคารชุดของต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทยก็ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 63,197 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม กรณีของเงินโอนจากประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ยังคงลดลงต่อเนื่อง จากปี 2561 อยู่ที่ 8,821 ล้านบาท ในปี 2565 ลดลงเหลือ 900 ล้านบาท ขณะที่ในส่วนของฮ่องกง เริ่มปรับตัวดีขึ้นในปี 2565 โดยมียอดเงินโอนมูลค่า 12,106 ล้านบาท
ทั้งนี้ สำหรับปี 2565 ยอดเงินโอนเพื่อซื้ออาคารชุดของต่างชาติอยู่ที่ 63,197 ล้านบาท โดยต่างชาติที่มีเงินโอนสูงสุดเริ่มจาก
1.ฮ่องกง 12,106 ล้านบาท
2.สหรัฐอเมริกา 11,607 ล้านบาท
3.สิงคโปร์ 7,827 ล้านบาท
4.สหราชอาณาจักร 5,509 ล้านบาท
5.ไต้หวัน 2,353 ล้านบาท
6.ญี่ปุ่น 1,043 ล้านบาท
7.จีน 900 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีของเงินโอนจากจีนมาไม่มากและลดลง อย่างไรก็ดีจะพบว่าเป็นการโอนเงินจากฮ่องกงที่อยู่ในระดับสูงและเริ่มขยับเพิ่มขึ้นในปี2565 นอกจากนี้จากข้อมูลพบว่าชาวอังกฤษยังมีการโอนเงินเพื่อซื้อคอนโดมิเนียมในประเทศไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้ในช่วงโควิด-19 โดยในปี2565ยอดเงินโดนสูงถึง 5,509 ล้านบาทสูงกว่าช่วงก่อนโควิดเกือบเท่าตัวโดยในปี2562 ยอดเงินโอนอยู่ที่ 2,406 ล้านบาท
ทั้งนี้ ธปท. ระบุว่า จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและชาวต่างชาติที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานในประเทศไทย จะเป็นตัวสะท้อนแนวโน้ม อุปสงค์ชาวต่างชาติ ซึ่งหากมีชาวต่างชาติมาท่องเที่ยวหรือทำงานในไทยมากขึ้น จะจูงใจให้ชาวต่างชาติสนใจซื้ออาคารชุดในไทย ทั้งเพื่ออยู่อาศัย เป็นบ้านหลังที่ 2 และเพื่อปล่อยเช่าให้กับคนต่างชาติ ที่ทำางานอยู่ในไทยมากขึ้น
ที่มา:https://www.prachachat.net/finance/news-1243996
วันที่ 27/3/2023
อัพเดทเมื่อวันที่ 27/03/2023