MQDC บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ปรับทัพผู้บริหารใหม่แต่งตั้ง นายสุทธา เรืองชัยไพบูลย์ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เน้นย้ำการสร้างรายได้และการส่งมอบโครงการ Flagship “The Forestias”
MQDC (บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด) บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ปรับทัพผู้บริหารใหม่แต่งตั้ง นาย สุทธา เรืองชัยไพบูลย์ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เน้นย้ำการสร้างรายได้และการส่งมอบโครงการ Flagship “The Forestias” ขณะที่นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ขยับขึ้นเป็นประธานกรรมการบริษัท และประธานกรรมการบริหาร
นายสุทธา เรืองชัยไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MQDC กล่าวว่า ในปี 2567 นี้ MQDC พร้อมเดินหน้าเต็มกำลัง ตั้งเป้ายอดขายและยอดโอนรวม 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งปัจจุบันโครงการ Flagship อย่าง ‘อาณาจักรป่ากลางเมือง The Forestias’ โดยรวมมีความคืบหน้าไปกว่า 70% ซึ่งโครงการที่อยู่อาศัยเฟสแรกที่นำโดยแบรนด์คอนโดมิเนียม Whizdom นั้น ขณะนี้เสร็จพร้อมโอนและเข้าอยู่ ได้แก่ วิสซ์ดอม เดอะ ฟอร์เรสเทียส์ มายโทเปีย (Whizdom The Forestias Mytopia) วิสซ์ดอม เดอะ ฟอร์เรสเทียส์ เดสทิเนีย (Whizdom The ForestiasDestinia)
ส่วนโครงการที่กำลังใกล้เสร็จสมบูรณ์และพร้อมโอนได้ในปีนี้ ได้แก่ วิสซ์ดอม เดอะ ฟอร์เรสเทียส์ เพทโทเปีย (Whizdom The Forestias Petopia) มัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ วิลล่า (Mulberry Grove The Forestias Villas) ซึ่งเป็นคลัสเตอร์โฮม พัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ เพื่อการอยู่อาศัยร่วมกันของครอบครัวใหญ่ และ มัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ คอนโดมิเนียม (Mulberry Grove The Forestias Condominiums) รวมไปถึงที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับผู้อยู่อาศัยวัย 50+ หรือวัยอิสระ ดิ แอสเพน ทรี เดอะ ฟอเรสเทียส์ (The Aspen Tree The Forestias) โครงการแบรนด์ระดับ โลกซิกส์เซนส์ (Six Senses) โครงการที่อยู่อาศัยหรูหราสไตล์ รีสอร์ทแห่งแรกของแบรนด์ Six Senses
พร้อมกันนี้ นาย สุทธากล่าวว่า ในปี 2567 นี้จะเน้นการสร้างรายได้ให้กับกลุ่มบริษัท โดยตั้งแต่หลังจากเกิดวิกฤติโควิด-19 ในปี 2563 เป็นต้นมา ทางบริษัทยังคงดำเนินการก่อสร้างโครงการ The Forestias ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ใช้งบลงทุนสูงอย่างต่อเนื่องโดยไม่ได้หยุดการก่อสร้างแต่อย่างใด จนกระทั่งเฟสแรกของโครงการได้แล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้ว และเฟสถัดๆไปก็จะทยอยเสร็จสมบูรณ์พร้อมโอนได้ภายในปีนี้อีกหลายโครงการ ภารกิจในปีนี้จึงเน้นการพัฒนา การขายและ การส่งมอบโครงการนี้ให้กับลูกค้าเป็นหลัก
โดยนอกจาก MQDC จะเน้นจุดแข็งที่นอกจากจะเป็นโครงการภายใต้ themed project แล้ว บริษัทจะยังคงดำเนินนโยบายมอบการรับประกัน 30 ปี ภายใต้โปรแกรม 30-Year Warranty ให้กับลูกค้าทุกโครงการได้ เพื่อให้ MQDC ยืนหยัดเป็นผู้นำในเรื่องของคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
“การรับประกัน 30 ปีนี้ถือเป็นจุดแข็งและจุดขายที่ MQDC มอบให้ลูกบ้านทุกคนในทุกโครงการ ซึ่งทำให้ลูกบ้านพึงพอใจและมั่นใจใน MQDC เสมอมา” นายสุทธา กล่าว
มาตรฐานการรับประกันที่อยู่อาศัย 30 ปี อยู่ภายใต้การดูแลโดยทีม Premium Care by MQDC ซึ่งจะช่วยลดความกังวลของลูกบ้านในการดูแลและซ่อมบำรุงใน 4 เรื่องหลักคือ โครงสร้างอาคาร การรั่วซึมจากน้ำฝน การใช้งานประตูหน้าต่าง และการชำรุดของท่อน้ำและสายไฟ
30-year warranty นี้เป็นหนึ่งในผลลัพธ์จากการที่ MQDC มี MQDC Standard ซึ่งศูนย์วิจัย RISC by MQDC ได้จัดทำขึ้น เพื่อใช้เป็นมาตรฐานการพัฒนาโครงการทุกๆแห่งภายใต้ MQDC ซึ่งเน้นประสานแนวคิดการอนุรักษ์พลังงาน ความคงทน การสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี โดยมีผลการวิจัยพฤติกรรมและจิตวิทยาของผู้อยู่อาศัยรองรับ
นายสุทธา ยังให้ความสำคัญกับการสานต่อพันธกิจหลักของ MQDC ด้าน sustainability อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน หรือ Sustainnovation ควบคู่ไปกับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ ทุกสรรพสิ่ง หรือ For All Well-Being ซึ่ง MQDC ได้ประกาศจะดำเนินธุรกิจให้ “สร้างผลเชิงบวกต่อธรรมชาติ และปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นลบในปี 2593 (Nature Positive & Carbon Negative 2050)” เป็นพันธกิจหลักอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2566
“การตั้งเป้าหมาย Carbon Negative หรือระดับคาร์บอนสุทธิเป็นลบในปี 2593 แม้เป็น mission ที่ท้าทาย แต่เชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้จริง เพราะเราได้ทำงานร่วมกับ คณะทีมงาน ผู้ออกแบบ ที่ปรึกษา และ RISC by MQDC ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ตั้งขึ้นเพื่อวิจัยค้นคว้านวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนโดยเฉพาะ และพิสูจน์แล้วว่าจากโครงการใหญ่ของเรา The Forestias นั้น ปัจจุบันเราสามารถลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้จากการลดการใช้พลังงานโดยรวม การจัดการพลังงานด้วยระบบ District Cooling System พลังงานทดแทนจาก Solar Cells และการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยต้นไม้ เพื่อบรรลุเป้าหมายลดการปลดปล่อย 40,000 ตัน ต่อปี” นาย สุทธา กล่าว
นอกจากนี้ นายสุทธา กล่าวว่า MQDC ยังเห็นประโยชน์อันหลากหลายของ AI ที่เชื่อมโยง และสอดคล้องกับแนวทางเน้นความเป็นผู้นำนวัตกรรม โดย MQDC ได้มีการร่วมค้นคว้าและพัฒนากับสถาบันระดับโลก ในการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยเสริมศักยภาพและประสิทธิภาพ ทั้งด้านการบริหาร การพัฒนาโครงการ ไปจนถึงการจัดการดูแลสิ่งอำนวย ความสะดวกในโครงการ โดยจะเห็นผลงานดังกล่าวได้จากโครงการนำร่องคือโครงการ The Forestias
นายสุทธา มีประสบการณ์กว่า 30 ปีในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ และมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะโครงการพัฒนาแคมปัส ที่เมืองอัลสตันของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โครงการฟื้นฟูเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์และโครงการส่วนเชื่อมต่อทิศตะวันออก (East Side Access) ที่สถานีรถไฟแกรนด์เซ็นทรัลในนครนิวยอร์ค และโครงการต่างๆ ภายในสนามบินลอสแอนเจลิส (LAX) รวมถึงในประเทศไทย อย่าง โครงการทรูดิจิตัลพาร์ค และได้ร่วมงานกับทาง MQDC มาถึง 12 ปีก่อนจะรับตำแหน่ง CEO ในปัจจุบันนายสุทธา มีประสบการณ์กว่า 30 ปีในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ และมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะโครงการพัฒนาแคมปัส ที่เมืองอัลสตันของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โครงการฟื้นฟูเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์และโครงการส่วนเชื่อมต่อทิศตะวันออก (East Side Access) ที่สถานีรถไฟแกรนด์เซ็นทรัลในนครนิวยอร์ค และโครงการต่างๆ ภายในสนามบินลอสแอนเจลิส (LAX) รวมถึงในประเทศไทย อย่าง โครงการทรูดิจิตัลพาร์ค และได้ร่วมงานกับทาง MQDC มาถึง 12 ปีก่อนจะรับตำแหน่ง CEO ในปัจจุบัน
ที่มา:https://www.thansettakij.com/pr-news/real-estate/590611
ที่ 12/3/2024
อัพเดทเมื่อวันที่ 12/03/2024