เพราะภารกิจผู้นำจะต้องบุกตะลุยไปข้างหน้าอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
ปี 2566 ค่ายแสนสิริ หนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์เบอร์ต้นของไทย มีความสุกงอมพร้อมสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ในด้านยอดขาย และผลประกอบการที่ดีที่สุดในรอบ 39 ปีของการก่อตั้งองค์กร โดยมีเป้าหมายมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
โค้งสุดท้ายของปี 2566 จึงได้เห็นแสนสิริ หยิบเครื่องมือทางการบริหารจัดการระดับยุทธศาสตร์ ด้วยการทรานส์ฟอร์มครั้งสำคัญ เป้าหมายเพื่อทำเรื่องใหม่ ๆ อย่างน้อย 3 เรื่องด้วยกันคือ 1.ปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ 2.แต่งตั้งผู้บริหารคนรุ่นใหม่ และ 3.เพื่อสร้างการเติบโตสู่ทศวรรษใหม่
แน่นอนว่า ภายใต้แสนสิริโมเดล ปฏิบัติการทรานส์ฟอร์มครั้งนี้ คาดหวังนำพาองค์กรก้าวสู่ทศวรรษใหม่แห่งการเร่งเครื่องเติบโต สอดรับกับเทรนด์ New Business Landscape ที่เปลี่ยนแปลงแบบเห็นหน้าเห็นหลัง นับตั้งแต่สถานการณ์โควิดเป็นต้นมา
Q4 ลงทุนเพิ่ม 3.6 หมื่นล้าน
โดย “อภิชาติ จูตระกูล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การปรับโครงสร้างใหม่ครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งภารกิจที่สำคัญ เพื่อมุ่งในการขับเคลื่อนองค์กรรับ New Business Landscape ในอนาคต
ตลอดจนเป็นการ empowerment ผู้บริหารในทุกสายงานให้มีความคล่องตัว สอดคล้องตาม DNA ของแสนสิริ คือ Speed to Market มีการตัดสินใจที่เฉียบคม บนข้อมูลและเหตุผลที่ตริตรองมาอย่างดี รับฟังเสียงของ stakeholder
ตามวิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่การเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย นำเสนอทั้งผลิตภัณฑ์และบริการด้านการอยู่อาศัยที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างครบวงจร และสร้างประโยชน์อย่างยั่งยืนแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย
ทั้งนี้ แสนสิริยังคงมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจและเดินหน้าเติบโตแข็งแกร่ง ควบคู่ให้ความสำคัญกับสังคม และการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ตั้งเป้ายอดขาย 55,000 ล้านบาท เป้ารายได้ 40,000 ล้านบาท เป็นการตั้งเป้าหมายที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท
ล่าสุดงวด 10 เดือน (มกราคม-ตุลาคม 2566) มียอดขายแล้ว 40,000 ล้านบาท คิดเป็น 73% ของเป้าทั้งปี พร้อมเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่น และกระตุ้นตลาดในไตรมาส 4/66 ประกาศเปิดตัวอีก 22 โครงการใหม่ มูลค่ารวมถึง 36,000 ล้านบาท
ปรับโครงสร้าง 2 เดิม 2 ใหม่
สำหรับการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ เกิดขึ้นภายใต้กลยุทธ์ “2 เดิม 2 ใหม่”
โดยคณะกรรมการบริหารหรือบอร์ดแสนสิริ ได้มีมติอนุมัติโครงสร้างองค์กรใหม่ มีผลวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป แบ่งโครงสร้างเป็น 4 สายงานหลัก ดังนี้
โครงสร้าง “2 เดิม” ได้แก่ สายงานพัฒนาโครงการ ขับเคลื่อนโดย “อุทัย อุทัยแสงสุข” ดูแลฝ่ายพัฒนาโครงการแนวสูง แนวราบ การควบคุมคุณภาพ หน่วยลูกค้าสัมพันธ์ และบริหารสินทรัพย์
กับสายงานด้านกฎหมาย รับผิดชอบโดย “นพพร บุญถนอม” ดูแลฝ่ายกฎหมาย รัฐกิจสัมพันธ์ และการสรรหาที่ดิน
ส่วนโครงสร้าง “2 ใหม่” มาจากการแต่งตั้งใหม่ 2 ผู้บริหารลูกหม้อ ได้แก่ สายงานด้านการตลาด นางสาวศรีอำไพ รัตนมยูร รับผิดชอบทางด้านการตลาดแบรนด์แคมเปญต่าง ๆ ภาพลักษณ์องค์กร และสื่อสารประชาสัมพันธ์
และสายงานด้านกลยุทธ์ ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการผลักดันเป้าหมายเชิงธุรกิจของบริษัทให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน รับผิดชอบโดย “ภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ” ดูแลฝ่ายการเงินการบัญชี บริหารการขาย ทรัพยากรมนุษย์ และเทคโนโลยีและสารสนเทศ
แสนสิริโมเดล-โปรโมตลูกหม้อ
“ภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ” ประธานผู้บริหารสายงานกลยุทธ์ เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ร่วมงานกับแสนสิริไม่ต่ำกว่า 18 ปี ได้รับผิดชอบสายงานต่าง ๆ ในแสนสิริมาอย่างหลากหลาย ครอบคลุมงานบริหาร ตลอดจนเป็นหนึ่งในผู้บริหารที่มีความเข้าใจเนื้องานในแต่ละส่วนมากที่สุด
ทั้งยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ และสร้างการเติบโตเชิงกลยุทธ์ ผลักดันให้แสนสิริได้รับการยอมรับจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง
ร่วมวางแผนในการจัดทำกลยุทธ์ Sansiri HR Transformation ที่ส่งผลให้แสนสิริได้รับการโหวตให้เป็นแบรนด์อสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ที่คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานด้วยมากที่สุด
รวมถึงการก้าวข้ามฟากไปดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จัดวางกลยุทธ์ทางด้าน property management ที่เป็นจุดแข็งทรงพลังของแสนสิริจนถึงทุกวันนี้ โดยก่อนที่จะมารับตำแหน่งแต่งตั้งใหม่ รับหน้าที่ดูแลงานฝ่ายเทคโนโลยีและสารสนเทศอยู่ก่อนแล้ว
วันนี้ได้รับความไว้วางใจจากบอร์ดและซีอีโอให้ดูแลสายงานใหม่ เป็นอีกหนึ่ง key person ที่จะนำพาองค์กรสู่วาระ 40 ปีแห่งการก่อตั้ง รับมือกับ New Business Landscape สู่เป้าหมายเชิงธุรกิจของแสนสิริที่ต้องการเติบโตอย่างยั่งยืน
แคตวอล์ก 40 ปี-เติบโตยั่งยืน
สำหรับ “นางสาวศรีอำไพ รัตนมยูร” ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานผู้บริหารสายงานการตลาด โปรไฟล์ร่วมงานกับแสนสิริเกิน 20 ปี เป็นผู้บริหารที่มากประสบการณ์ ทั้งที่แสนสิริ และบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ดูแลบริการหลังการขาย
มีความเชี่ยวชาญในด้านกลยุทธ์การตลาด เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Sansiri Luxury Collection ผู้นำตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับซูเปอร์ลักเซอรี่ที่ได้รับความเชื่อมั่น และการยอมรับจากลูกค้าทั้งในด้านแบรนด์ คุณภาพโครงการ รวมถึงเข้าใจในไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย
สะท้อนได้จากความสำเร็จของอาคารชุด 98 Wireless ที่สร้างประวัติศาสตร์ครองแชมป์ราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรสูงที่สุดในประเทศ กับราคารีเซลเฉลี่ยต่อตารางเมตรที่ 1 ล้านบาท
ล่าสุดกับบ้านเดี่ยว “BuGaan” แบรนด์ลักเซอรี่เพื่อคนรุ่นใหม่ ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต และมองหาประสบการณ์ชีวิตที่มีคุณค่า (life asset value)
ศรีอำไพเป็นหนึ่งในผู้บริหารหญิงที่ได้รับคำชื่นชมจาก Management Team ว่าเป็นตัวแทนผู้บริหารยุคใหม่ ไม่หวั่นกับการทำงานหนัก ออกตรวจไซต์งานก่อสร้างด้วยตัวเองทุกครั้ง
ความท้าทายอยู่ที่ภารกิจตอกย้ำความเป็นผู้นำแบรนด์อันดับหนึ่งของวงการอสังหาฯ ให้แข็งแกร่ง และแตกต่างจากคู่แข่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม ตลอดจนการเป็น Top-of-Mind Brand ที่ยืนหนึ่งในใจผู้บริโภค รวมถึงมุ่งมั่นที่จะส่งต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในทุกเซ็กเมนต์
ที่มา:https://www.prachachat.net/property/news-1429533
ที่ 6/11/2023
อัพเดทเมื่อวันที่ 06/11/2023