‘Private Life Sanctury’ เทรนด์การอยู่อาศัยรูปแบบใหม่ ที่ตอบโจทย์ความหรูหราแบบไม่ตะโกนสะท้อนผ่านโครงการ ‘สโคป หลังสวน’ คอนโดอัลตร้าลักชัวรีที่เปี่ยมรสนิยมแบบไม่ต้องพยายาม
หากจะพูดถึงคำว่า ‘Private Life Sanctury’ อาจจะเป็นคำที่หลายไม่คุ้นหู แต่หากบอกว่าเป็นรูปแบบการอยู่อาศัยที่สอดคล้องกับเทรนด์ ‘Quiet Luxury’ ก็คงจะพอเข้าใจมากขึ้น มันหมายถึงความหรูหราแบบไม่ต้องใช้ความพยายาม ไม่ต้องอวดอ้างด้วยโลโก้ใหญ่โต ไม่ได้มีสีสันฉูดฉาดดูดสายตาใคร และไม่ได้เป็นสินค้าแบรนด์ดังที่มีหน้าร้านอยู่ในทุกห้างฯ
ทว่าเป็นความมีระดับจากกระบวนการคิดที่พิถีพิถัน และให้ความสำคัญในเรื่องของรายละเอียด และคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย อาทิ วัสดุระดับพรีเมียม ฟังก์ชั่นการใช้งานที่คิดมาอย่างดีเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่สะดวกสบาย บริการและสาธารณูปโภคส่วนกลางที่ครบครัน กระบวนการก่อสร้าง และตกแต่งอันประณีตให้ได้เห็นงานฝีมือที่สะท้อนผ่านคุณภาพของวัสดุ เน้นความเรียบง่ายไร้กาลเวลา ซึ่งจะเข้าใจได้ในกลุ่มคน Sophisticated ที่มีรสนิยม ในระดับเดียวกันเท่านั้น
ไม่ใช่แค่โลกของไฮ-แฟชันที่กำลังอินกับความเรียบง่ายทว่าเหนือระดับของเทรนด์ ‘Quiet Luxury’ เท่านั้นแต่ในแวดวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ก็กำลังให้ความสนใจกับ Private Life Sanctury มากขึ้น ซึ่งแท้จริงแล้วความหรูหราที่มุ่งเน้นในเรื่องของคุณภาพเป็นสิ่งสอดคล้องตามแนวคิดและรสนิยมที่บริษัทยึดถือมาโดยตลอด ก่อนที่เทรนด์ ‘Quiet Luxury’ จะได้รับความนิยมในปัจจุบัน
โดย "ยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโคป จำกัด ได้มุ่งมั่นพัฒนาโครงการ สโคป หลังสวน ผลงานชิ้นโบว์แดงล่าสุดที่ทุกองค์ประกอบถูกคัดสรรอย่างพิถีพิถัน เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่ม Sophisticated โดยเฉพาะ ภายใต้แนวคิด ‘THE SENSORY OF FINEST LIFE’ ในแง่มุมดังต่อไปนี้
ยงยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ ถ้าจะพัฒนาอสังหาฯ เพื่อเจาะตลาด Luxury แค่ทำเลที่ตั้งดีๆ ยังไม่พอ ผมคิดว่าการออกแบบเป็นเรื่องสำคัญ ถัดมาเป็นประเด็นเกี่ยวกับ Facilities ที่อยู่ในตึก ว่าครอบคลุมความต้องการมากพอไหม และอย่างสุดท้ายคือการให้บริการที่ดี และการมอบความเป็นส่วนตัวให้ผู้พักอาศัย ทั้งหมดนี้เป็นองค์ประกอบของคำว่าหรูหราในความหมายของสโคป
“เมื่อต้องสร้างโครงการสักแห่งที่จะใช้คำว่าหรูหราได้อย่างสมศักดิ์ศรี เราจึงพัฒนาโดยเน้นส่งมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ดีที่สุด เพื่อตอบโจทย์กลุ่ม Sophisticated ที่มีความเก่งในการเลือกซื้อคอนโดฯ ระดับหนึ่งอยู่แล้ว พวกเขารู้จักหาข้อมูล หรือเคยมีโอกาสได้สัมผัสความประสบการณ์อยู่อาศัยที่หรูหรา โดยเฉพาะในต่างประเทศ ซึ่งสิ่งที่พวกเขามองหาคือความงดงามแบบน้อยแต่มาก ในด้านการออกแบบไม่จำเป็นต้องทำให้ดูใหญ่ไว้ก่อน แต่เรียบหรูดูแพงในแบบที่ไม่ต้องพยายาม คัดสรรทุกองค์ประกอบโดยไม่มีข้อแม้เรื่องค่าใช้จ่าย แต่เน้นหาสิ่งที่ดีที่สุดในแต่ละสายเข้ามาประกอบ เติมเต็ม เพื่อสร้างสัมผัสที่ Finest จริงๆ ให้กับโครงการ”
ทำไมต้อง ‘Quiet Luxury’ และ‘Private Life Sanctury’
เทรนด์ผู้บริโภคมักสัมพันธ์กับสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจ ในโลกยุคหลังโควิด-19 คนมีเงินจำนวนไม่น้อยที่ไม่อยากอวดฐานะตนเอง ทว่าหวนกลับไปสู่ความเรียบง่าย ไม่ว่าจะในแง่ของแฟชั่นการแต่งตัว หรือกระทั่งการเลือกที่อยู่อาศัย แทนที่จะเน้นความสวยงามดึงดูดสายตา ก็กลายมาเป็นเรื่องการคัดสรรวัสดุพรีเมียมเพื่อใช้สร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่าในแง่ Functional แต่ยังคงงดงามเหนือกาลเวลา ดูแล้วสบายตาไม่เบื่อง่าย
งานออกแบบของสโคป หลังสวน จัดอยู่ในหมวด Modern Contemporary คือไม่ถึงขั้นคลาสสิค แต่เป็นความงดงามที่ตั้งใจให้ Timeless ผ่านทั้งงานดีไซน์และการเลือกวัสดุ ในสมัยก่อนโครงการต่างๆ ยังเข้าไม่ถึงการพัฒนาให้เป็น Quiet Luxury เพราะคุณภาพวัสดุไม่ถึงเกณฑ์ การจะทำให้เรียบหรู วัสดุต้องดีพอจึงจะทำได้อย่างที่คิด ซึ่ง สโคป หลังสวน ให้ความสำคัญกับการออกแบบ ที่ต้องได้มาตรฐานระดับอินเตอร์ในทุกอณูของโครงการ
" เราได้ความร่วมมือจากโทมัส ยูล-ฮานเซน ดีไซน์เนอร์ชื่อก้องโลกจากนิวยอร์กผู้ออกแบบเพนท์เฮาส์เจ้าของสถิติราคาแพงที่สุดในนิวยอร์กเมื่อปี 2015 ราคา 100 ล้านเหรียญสหรัฐ และอพาร์ตเมนท์ที่แพงที่สุดในลอนดอนราคา 61 ล้านปอนด์ ร่วมเป็นที่ปรึกษาในการออกแบบตกแต่งสถาปัตยกรรมโครงการ และออกแบบตกแต่งภายในทั้งพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่อยู่อาศัยแบบ Fully Furnished ในทุกยูนิต คอนโดมิเนียมแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนงานศิลปะที่จะเพิ่มมูลค่าขึ้นเรื่อยๆ "
เลือกใช้วัสดุระดับท็อปอย่างพื้นหินอ่อนอิตาเลียนแท้หลากหลายประเภทในห้องโถงใหญ่และห้องครัว และพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ในห้องนอนทุกห้อง นอกจากนี้ยังคัดสรรเครื่องครัวจากแบรนด์สุดหรูอย่าง Gaggenau พร้อมตู้เย็นตู้แช่ไวน์เทคโนโลยีขั้นสูงแบรนด์ Sub-Zero รวมถึงตู้เสื้อผ้าและ Walk-in Closet จากแบรนด์ Lema และเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นๆ ที่เลือกมาโดยผ่านการคิดมาแล้วโดยคุณโทมัสทุกชิ้น ที่จะช่วยขับเน้นความงดงามของที่อยู่อาศัยให้เด่นชัดขึ้นอีก แต่ไม่ได้มีส่วนไหนที่ขัดแย้งกันจนเกินไป
พื้นที่แห่งชีวิตส่วนตัวอย่างแท้จริง
มีแนวโน้มว่าคนที่ชอบ Quiet Luxury มีความชื่นชอบในการใช้ชีวิตที่เป็นส่วนตัวด้วยเช่นกัน หลังใช้ชีวิตอย่างเต็มเหนี่ยวมาทั้งวันในโลกการทำงานและสังสรรค์ บ้านควรเป็นพื้นที่ที่จะได้ปลดปล่อยตนเองให้กลับสู่ความสงบ เติมพลังชีวิตให้พร้อมสำหรับการเผชิญหน้ากับวันพรุ่งนี้ โดยสโคป หลังสวน ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน กับการมอบประสบการณ์ Private Life Sanctury ผ่านการเลือกใช้วัสดุเก็บเสียงเพื่อความเป็นส่วนตัวในการใช้ชีวิต กับจำนวนยูนิตท่ามกลางสังคมคุณภาพเพียง 133 ยูนิต และแต่ละชั้นของคอนโดฯ จำกัด เพียงไม่เกิน 6 ยูนิตเท่านั้น ทั้งยังเข้าถึงได้ด้วยลิฟต์ส่วนตัวและบริการ Concierge Service ที่คอยให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้การที่โครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่มากเพียงพอที่จะทำให้คุณสามารถใช้ชีวิตอย่างเป็นส่วนตัวอยู่ในพื้นที่ที่เรียกว่าบ้านได้อย่างสะดวกสบาย และมีความสุขกับแพสชั่นของตนเองได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องออกไปพบเจอผู้คนภายนอกไม่ว่าจะเป็นห้องซ้อมดนตรีสำหรับลูกบ้าน โรงภาพยนตร์ส่วนตัวขนาด 25 ที่นั่งที่ลูกบ้านสามารถเลือกจองและเข้ามาใช้งานได้แบบไพรเวท ไวน์เซลลาร์ พื้นที่ไดน์นิ่งและจัดงานเลี้ยงส่วนตัว ห้องประชุมและห้องทำงาน อีกทั้งยังมีออนเซ็น และห้องสปาไว้บริการสร้างความผ่อนคลายให้กับลูกบ้านอย่างเป็นส่วนตัวด้วยทุกวัน ฟิตเนสที่นี่เลือกใช้อุปกรณ์ที่มีมาตรฐานระดับสูงแบรนด์ Technogym ทั้งหมดก็ นอกจากนี้ยังมีบริการสำหรับลูกบ้าน Concierge services ผู้ช่วยส่วนตัวที่คอยให้บริการช่วยเหลือตลอด 24 ชม. นี่เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้นที่โครงการ Scope Langsuan มอบให้กับลูกบ้าน
ที่มา:https://www.bangkokbiznews.com/property/1095358
วันที่ 25/10/2023
อัพเดทเมื่อวันที่ 25/10/2023